vnjoytravel | รีวิวทริป |
ประเทศไทยไม่มีทะเลทราย ดังนั้นการได้ไปเห็นและสัมผัสทะเลทรายจึงเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน
ไม่ไกลจากประเทศไทย มีทะเลทรายสุดฮิตที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ไปเยือนเป็นจำนวนมาก
ทะเลทรายนั้นอยู่ที่เมือง หมูยแน้ หรือที่หลายคนเรียกกันว่า มุยเน่ ในประเทศเวียดนาม
ทะเลทรายที่ใกล้ประเทศไทยที่สุดและมาง่ายมาก ทุกคนควรได้มาสัมผัส
เมื่อมาถึงเมืองหมูยแน้จะพบว่ามีบริษัททัวร์อยู่มากมาย เสนอโปรแกรมทัวร์โดยใช้รถจิ๊ปพาชมสถานที่โด่งดังของเมืองหมูยแน้
ได้แก่ ทะเลทรายขาว ทะเลทรายแดง ลำธารนางฟ้า และ หมู่บ้านชาวประมง ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน
ผมเองก็เที่ยวชมสถานที่ดังกล่าวตามโปรแกรมทัวร์เช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่ผมขี่รถจักรยานต์เที่ยวเอง จึงสามารถแวะระหว่างทางได้ตามใจชอบ
มาชมรีวิว ตะลุยดินแดนทะเลทรายหมูยแน้แบบแบกเป้เที่ยว กันได้เลย
พอออกจากเมืองหมูยแน้มาก็เจอ ทะเลทรายแดง ก่อนเลย
อยู่ติดถนนใกล้เมืองหมูยแน้มาก จอดรถแล้วเดินเข้าไปได้เลยไม่มีค่าเข้า
โปรแกรมทัวร์ส่วนมากจะแวะทะเลทรายขาวก่อนแล้วค่อยมาทะเลทรายแดง
แต่การได้มาทะเลทรายแดงในตอนเช้าตรู่ แสงอาทิตย์จะส่องทรายที่นี่เป็นสีส้มแดงอย่างชัดเจน
เนินทรายที่นี่สูงมากและอยู่ใกล้ทะเล เหมาะกับการนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าชายทะเล
สีส้มแดงของท้องฟ้าที่กว้างใหญ่กลมกลืนกันกับสีของทรายที่ทะเลทรายแดงนี้อย่างลงตัว
เป็นภาพอาทิตย์ชึ้นยามเช้าที่สวยประทับใจ
จากทะเลทรายแดงมาจะเป็นถนนเลียบหาดหมูยแน้ซึ่งมีนักท่องเที่ยวบางตา
เมื่อเลยหาดถนนจะขึ้นเนินสูง สามารถมองเห็นหาดหมูยแน้ที่ฝั่งแผ่นดินเต็มไปด้วยเนินทรายมากมาย
เป็นทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา
หลังจากนั้นถนนก็จะเข้าสู่พื้นที่ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยทรายที่แห้งแล้ง
เป็นสิ่งที่แสดงให้เรารู้ว่าถนนเส้นนี้กำลังมุ่งหน้าสู่ ทะเลทรายขาว ทะเลทรายที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม
เมื่อออกจากถนนสายหลักเพื่อมุ่งหน้าสู่ทะเลทรายขาว จากถนนสภาพดีก็กลายเป็นเส้นทางสุดทุรกันดารดังรูป
เมื่อมีรถขับผ่านจะมีฝุ่นฟุ้งจนแทบมองทางไม่เห็น
ก่อนเข้าสู่ทะเลทรายขาวจะได้พบดอกบัวหลวงสีชมพูจำนวนมากที่เบ่งบานอยู่ใน ทะเลสาบเบ่าจั๋ง
โดยมีฉากหลังเป็นเนินขนาดมหึมาของทะเลทรายขาวที่กว้างใหญ่
ภาพความสดชื่นของเหล่าดอกบัวในทะเลสาบดูขัดกันกับความแห้งแห้งของทะเลทรายด้านหลังอย่างสิ้นเชิง
ความแตกต่างกันนี้กลับรังสรรค์ทัศนียภาพที่งดงามได้อย่างน่าประทับใจ
สถานที่สวยงามแบบนี้แต่ไม่ได้ถูกบรรจุในโปรแกรมทัวร์ อาจเพราะดอกบัวเบ่งบานเพียงบางฤดูกาล
เป็นโชคดีของผมจริงๆ ที่มาในช่วงที่ดอกบัวกำลังเบ่งบานสะพรั่งพอดี
จากนั้นก็ซื้อบัตรเพื่อเข้าชมความยิ่งใหญ่ของทะเลทรายขาว
เมื่อมาถึงก็มีฝูงน้องวัวเจ้าถิ่นเดินข้ามทะเลทรายขาวโดยไม่ต้องจ่ายค่าบัตร
ทะเลทรายขาวมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก จะเดินขึ้นเดินทรายจำเป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
แดดที่ร้อนแรง แสงจ้าที่สะท้อนเม็ดทราย การเดินบนทรายที่ยากและเหนื่อยกว่าการเดินบนพื้นปกติ
ทุกคนจึงต้องใช้บริการรถเอทีวีพาขึ้นเนินทรายสูงลิบที่อยู่ไกลออกไปเพื่อจะได้เห็นความกว้างใหญ่ของทะเลทรายได้อย่างเต็มที่
หลังจากเหนื่อยล้าจากทะเลทรายขาวแล้ว ก็มุ่งหน้ากลับไปเมืองหมูยแน้ เพื่อไปยัง ลำธารนางฟ้า
ลำธารนี้ไหลผ่านเนินทรายที่มีหลากสีสันตัดกันเป็นชั้น
เม็ดทรายที่นี่เกาะตัวกันแน่นแล้วเกิดการกัดเซาะจากน้ำฝนเกิดเป็นริ้วดูแปลกตาน่าพิศวง
ทำให้มีการเปรียบเปรยลำธารนี้เหมือนดั่งลำธารของนางฟ้าบนสวรรค์
การได้เดินตามลำธารสายน้ำที่ไหลเย็น ชมความงามของภูมิลักษณ์ที่สวยงามน่าตื่่นตาตื่นใจแบบนี้
ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินเที่ยวในทะเลทรายหายเป็นปลิดทิ้ง
สถานที่สุดท้ายในทริปหมูยแน้ ก็คือ หมู่บ้านชาวประมง
ที่เต็มไปด้วยเรือประมงมากมายจอดเรียงรายอยู่เต็มอ่าว
พร้อมกับหาอาหารทะเลรับประทานกันให้เต็มอิ่ม เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลซึ่งมีให้เลือกมากมาย
อาหารทะเลสดใหม่ ราคาถูก มีอาหารทะเลแปลกๆ มากมายที่หารับประทานไม่ได้ในประเทศไทย
จบทริปผจญภัยตะลุยดินแดนทะเลทรายเมืองหมูยแน้ แม้จะเหนื่อยมากแต่ก็สนุกน่าประทับใจ
รับรองว่าทุกคนที่มาเยือนที่นี่จะต้องประทับใจเช่นกัน